Catering แบบบุฟเฟต์
การจัดเลี้ยง Catering แบบบุฟเฟต์เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับงานเลี้ยงหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานประชุม หรืองานเฉลิมฉลองต่างๆ Catering แบบบุฟเฟต์จะช่วยให้แขกทุกคนสามารถเลือกอาหารตามความชอบและสามารถกลับมาเติมอาหารได้ตลอดเวลา และนอกจากนี้ยังสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองและผ่อนคลาย ชิลๆ แบบไม่เป็นทางการอีกด้วย
ข้อดี
1. เป็น Catering ที่มีความหลากหลายของอาหาร สามารถเสิร์ฟอาหารได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารนานาชาติ หรืออาหารพิเศษตามธีมงาน
2. เป็น Catering ที่มีความยืดหยุ่น โดยแขกสามารถเลือกและตักอาหารตามความชอบและปริมาณที่ต้องการ
ข้อเสีย
1. การจัดเตรียมพื้นที่สำหรับ Catering แบบบุฟเฟต์จำต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับโต๊ะอาหารและจำนวนแขกที่มาร่วมงาน
2. การรักษาความสะอาดของพื้นที่และอุปกรณ์ในการเสิร์ฟอาหารที่ต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง
วิธีการจัดการ Catering แบบบุฟเฟต์
1. การวางแผนเมนู : ควรมีความหลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผัก ผลไม้ ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ควรพิจารณาถึงแขกที่มีข้อจำกัดทางอาหาร เช่น อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ หรืออาหารปราศจากกลูเตน เพื่อให้แน่ใจว่ามีอาหารที่เหมาะสมสำหรับทุกคน
2. การจัดเตรียมสถานที่ : ควรจัดโต๊ะอาหารให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและสะดวกต่อการเข้าถึงของแขก รวมถึงการจัดวางจาน ช้อน ส้อม แก้วน้ำ และผ้าเช็ดปากให้อย่างเป็นระเบียบ
3. การจัดเรียงอาหาร : ควรจัดเรียงอาหารตามประเภทและคำนึงถึงการไหลเวียนของแขก เช่น เริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารหลัก และอาหารหวาน การจัดวางอาหารให้ดูน่าสนใจและสวยงามจะช่วยเพิ่มความประทับใจให้กับแขกได้เป็นอย่างมาก
Catering แบบค็อกเทล
การจัดเลี้ยง Catering แบบค็อกเทลเป็นทางเลือกใหม่ที่ทันสมัยและได้รับความนิยมในการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ เช่น งานเปิดตัวสินค้า งานเลี้ยงบริษัท หรือปาร์ตี้ส่วนตัว การจัดเลี้ยง Catering แบบค็อกเทลจะเน้นการเสิร์ฟอาหารในขนาดพอดีคำและเครื่องดื่มที่หลากหลาย เพื่อให้แขกสามารถ move พูดคุยกันได้สะดวกและคล่องตัว
ข้อดี
1. เป็นการจัดเลี้ยง Catering ที่มีบรรยากาศแสนผ่อนคลายและเป็นกันเองมากที่สุด แขกสามารถ move ไปตำแหน่งไหนก็ได้
2. เป็น Catering ที่เสิร์ฟอาหารขนาดพอดีคำทำให้แขกรับประทานอาหารได้ง่ายและสะดวก
3. ไม่ใช้พื้นที่ในการจัดมากเหมือน Catering แบบบุฟเฟต์
ข้อเสีย
1. การจัดเลี้ยง Catering แบบค็อกเทลอาจมีความหลากหลายของอาหารน้อยกว่า Catering แบบบุฟเฟต์
วิธีการจัดการ Catering แบบค็อกเทล
1. การวางแผนเมนู : ควรเน้นอาหารขนาดพอดีคำ (finger foods) ที่สามารถรับประทานได้ง่าย เช่น คานาเป้ แซนด์วิชขนาดเล็ก อาหารว่างอื่นๆ และควรมีตัวเลือกให้ทั้งอาหารคาวและหวานด้วย
2. การเลือกเครื่องดื่ม : ควรมีเครื่องดื่มที่หลากหลาย เช่น ค็อกเทล ม็อกเทล เบียร์ ไวน์ และน้ำผลไม้ เพื่อให้แขกสามารถเลือกตามความชอบ และไฮไลท์ควรมีบาร์ที่มีบาร์เทนเดอร์คอยให้บริการพร้อมสร้างบรรยากาศภายในงาน
3. การจัดเตรียมสถานที่ : ควรมีพื้นที่ให้แขกสามารถเดินพูดคุยกันได้สะดวก และควรใช้โต๊ะแบบสูงสำหรับวางอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงมีพื้นที่นั่งพักผ่อนสำหรับแขกที่ต้องการนั่งพักไว้ด้วย
4. การจัดเรียงอาหารและเครื่องดื่ม : ควรจัดวางอาหารในถาดหรือภาชนะที่สามารถหยิบรับประทานได้ง่าย และมีการเติมอาหารเมื่อหมด เพื่อให้แขกสามารถรับประทานได้ตลอดเวลา
การจัดเลี้ยง Catering แบบบุฟเฟต์และ Catering แบบค็อกเทลเป็นสองทางเลือกยอดนิยม แต่ก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน และเราก็ได้ทำข้อเปรียบเทียบระหว่างการจัดเลี้ยง Catering แบบบุฟเฟต์และแบบค็อกเทลไว้ให้แล้ว ดังนั้นการที่เพื่อนๆ จะเลือกประเภทของการจัดเลี้ยง Catering ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะของงานเลี้ยงที่ต้องการจะจัดงาน
การจัดเลี้ยง Catering แบบบุฟเฟต์เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความหลากหลายของอาหาร
การจัดเลี้ยง Catering แบบค็อกเทลเหมาะสำหรับงานที่ต้องการบรรยากาศที่เป็นกันเอง
คิดออกหรือยังคะ…ว่าอยากจัด Catering แบบไหนดี?