เทศกาลกินเจ หรือประเพณีกินเจ ความเป็นมาที่ยาวนานมาจากประเทศจีน แต่ไม่ได้หมายความว่า ชาวจีนทุกคนจะต้องกินเจทั้งหมด หลักปฏิบัติการถือศีลกินเจคือ การดำรงอยู่ในศีลธรรม ละเว้นจากการกินเนื้อสัตว์ มีความบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจ การกินเจนั้นใช่ว่าจะสามารถทานพืชผักได้ทุกชนิด แต่ยังมีพืชผักต้องห้ามอยู่ 5 อย่างคือ กระเทียม หอม กุยช่าย หลักเกียว ใบยาสูบ ทั้ง 5 อย่างนี้รวมทั้งดอก ผล ต้น ใบ และราก พืชผักที่ให้กลิ่นฉุน และของมึนเมา และของเสพติดทั้งหมด เนื้อสัตว์ที่ห้ามรวมไปถึงสิ่งที่มาจากสัตว์ เช่น ไข่ นม ชีส หรือน้ำมันที่ทำมาจากสัตว์ ด้วยเหตุผลที่ว่า การกินเจจะต้องไม่เบียดเบียนสัตว์ทุกชนิด รวมไปถึงภาชนะที่ใช้ในครัวเรือนจะต้องแยกออก และใช้งานโดยเฉพาะสำหรับกินเจ การที่แยกภาชนะอุปกรณ์กับคนในบ้านนั้นค่อนข้างยาก ส่วนใหญ่มักจะหาซื้ออาหารเจที่มีอยู่ทั่วไปมาทาน แต่ผู้ที่ขาย หรือปรุงอาหารนั้นจะต้องถือศีลกินเจเหมือนกัน และเลือกใช้วัตถุดิบที่ถูกหลักการปฏิบัติในช่วงเทศกาลได้ ในประเทศไทยที่มีการจัดงานเทศการถือศีลกินเจที่ใหญ่ที่สุดคือ จังหวัดภูเก็ต ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมพิธี จะเดินทางไปร่วมงานกันอย่างหนาแน่น
สิ่งที่ได้รับและประโยชน์ที่ได้รับจากการถือศีลกินเจ มีดังนี้
1.ช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก
เพราะการกินเจวัตถุดิบหลักคือพืชผัก และผลไม้ ที่เป็นแหล่งอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี เกลือแร่ และโปรตีนที่มาจากถั่วและธัญพืช ซึ่งการกินเจจะไม่มีเนื้อสัตว์จึงไม่มีไขมัน ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น และทำให้ไขมันส่วนเกินที่มีอยู่ ค่อย ๆ ลดลง
2. มีส่วนช่วยลดการทำงานของระบบทางเดินอาหาร
กระเพาะอาหาร และลำไส้ทำงานมีหนักเป็นเวลายาวนาน วัตถุดิบของอาหารที่ใช้ในเทศกาลกินเจนั้น ส่วนใหญ่เป็นผักและธัญพืชที่ย่อยง่าย จึงลดระยะเวลาในการย่อยอาหาร ทำให้กระเพาะทำงานน้อยลง และปรับสมดุลของร่างกายให้ทำงานปกติที่ดีขึ้น
3.ช่วยขับสารพิษตกค้างออกจากร่างกาย
กากใยอาหาร หรือ ไฟเบอร์ที่มีมากอยู่ในผักและผลไม้ จะทำหน้าที่ชำระล้างเศษอาหารที่ตกค้าง เกาะอยู่ในกระเพาะอาหารและลำไส้มาเป็นเวลานาน จนอาจก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ที่ร้ายแรงตามมาได้ การกินเจยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายกลับมาทำงานตามปกติ เพราะบางครั้งที่เราหลงลืมไปว่า การที่ทานอาหารที่มีไขมันจากสัตว์ ทำให้ระบบการทำงานของประสาทและสมองล่าช้า ขาดการตื่นตัวมีผลสืบเนื่องมาจากไขมันที่เข้าไปปในกระแสเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองช้าลง และระบบต่าง ๆ อีกด้วย
4.มีส่วนช่วยในเรื่องของการบำรุงผิว
แน่นอนเลยว่า ร่างกายของมนุษย์มีน้ำอยู่ 70% ของร่างกาย เพื่อให้ระบบการทำงานของร่างกายทำงานได้คล่องตัว และช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ไม่ข้นจนทำให้การไหลเวียนติดขัด ผักและผลไม้จะมีปริมาณน้ำอยู่มาก ช่วยเสริมให้ระบบต่าง ๆ ทำงานดีขึ้นอย่างปกติ และทำให้เกิดความชุ่มชื้น ส่งผลไปยังผิวหนังให้ดูอ่อนโยน เปล่งประกาย และเนียนนุ่ม
5.การกินเจช่วยให้ร่างกายไม่เจ็บป่วยง่าย
หลักข้อห้ามของการกินเจคือ ไม่บริโภคของมึนเมา และสารเสพติด ซึ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งที่อันตรายต่อร่างกายมาก การกินเจจึงมีส่วนให้ร่างกายกลับมาทำงานตามปกติ เมื่อร่างกายไม่โดนทำร้ายแล้ว เซลล์ต่าง ๆ จะเร่งทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในส่วนต่าง ๆ ทำให้ร่างกายแข็งแรง และสร้างภูมิคุ้มกันเป็นอย่างดี
ประโยชน์ของการกินเจมีอยู่มากมาย ที่มีการจัดงานเป็นเทศกาลปีละครั้ง แต่หากไม่ใช่ช่วงเทศการก็สามารถหาซื้อมาทานเพื่อสุขภาพที่ดีได้ โดยจะมีสัญญาลักษณ์ เจ ติดอยู่ที่ถุง หรือฉลาก ส่วนใหญ่แล้วจะปักธงไว้ บ่งบอกถึงความสะอาด และวัตถุดิบที่เป็นการคัดสรรมาอย่างดี จะพบได้ตามตลาดที่ขายอาหารสำเร็จรูป หรือร้านค้าซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป เทศกาลกินเจปีนี้ ช่วนคนที่รัก และคนในครอบครัวถือศีลกินเจ เพื่อสุขภาพที่ ตลอดไป